HONG KONG 2013

ทริปฮ่องกงทริปนี้ เป็นทริปที่ไม่ได้ตั้งใจจะไปเท่าไหร่ บังเอิญได้ตั๋วเครื่องบิน ที่พักราคาถูก เลยไม่อยากพลาดโอกาส ผมไปช่วงเดือนกันยายนเป็นช่วงที่เสี่ยงไม่น้อย เพราะว่าเป็นช่วงฤดูฝน และเป็นน่ามรสุม แต่ก็โชคดีที่ไปเที่ยวนี้ไม่เจอฝนเลย อากาศก็ไม่ร้อนเท่าไหร่ ทำให้ถ่ายรูปได้สบายไม่กังวล ทริปนี้ผมใช้เปิดแผนที่เที่ยวกันเอง โดยพึ่งรถไฟใต้ดินเป็นส่วนใหญ่ เพราะสถานที่เที่ยวส่วนใหญ่ของฮ่องกงนั้นรถไฟใต้ดินไปได้ถึงเกือบทั้งหมด ถ้ามีการศึกษาเส้นทางดีๆ ไม่มีหลงเพราะคนไทยส่วนใหญ่ที่ไปก็เลือกเที่ยวแบบนี้ เดี๋ยวนี้หนังสือไกด์นำเที่ยวฮ่องกงก็ออกมาขายเกลื่อนกลาด ผมเที่ยวทริปนี้ก็ไปสถานที่เที่ยวหลักๆเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็เกือบหมดนะ บล็อคฮ่องกงนี้จะเป็นภาพสถานที่เที่ยวซะส่วนใหญ่ ผมจะไม่อธิบายวิธีการไป เพราะผมว่าหนังสือบางเล่มอธิบายได้ละเอียดควรจะซื้อติดไปจะดีมากกว่า มาดูกันดีกว่าว่าผมไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง





เราใช้เวลาเดินทางแค่สองชั่วโมงครึ่งก็ึงฮ่องกงแล้ว



ที่แรกที่เราจะไปคือวัด Wong Tai Sin temple เป็นวัดที่คนฮ่องกงจะมาไหว้กัน โดยใช้รถไฟใต้ดินสายสีเขียว มาลงที่สถานี wong tai sin ออกมาขึ้นตามทางก็จะเจอวัดเลย.





จุดนี้ก็มาแวะถ่ายรูปที่ซุ้มประตูอันสวยงามทั้งสองจุดกันก่อน





แล้วก็เข้ามาไหว้พระกัน วันที่มาคนยังไม่ค่อยเยอะเพราะเป็นช่วงเช้า ถ้าใครจะมาไหว้ควรจะมาเช้าหน่อย จะได้ไม่แออัด และพอมีพื้นที่ถ่ายรูปภายในวัด.




จุดนี้ก็เป็นอีกจุดที่ต้องมาไหว้และเสี่ยงเซียมซี แต่เค้าบอกกันว่าคนเยอะมากต้องแย่งพื้นที่กัน แต่วันนี้เราสบายฉลุย



มีมุมถ่ายรูปสวยเยอะภายในวัด




หลังจากไหว้พระเสร็จเราก็ไปกันต่อที่ Chi Lin Nunnery ซึ่งคล้ายกับพิพิธภัณฑ์กลับลงไปสถานีเดิมแล้วนั่งรถไฟไปลงสถานี diamond hill ออกทางexit c เดินทะลุห้างhollywood plaza ออกมาตามทางเลาะตามถนนก็จะเห็นวัด





วัดนี้ค่อนข้างมีระเบียบซักหน่อย จะมีการรักษาความปลอดภัยอย่างดี และบางจุดก็ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป นักท่องเที่ยวควรระมัดระวังซักหน่อย อาจจะโดยเอ็ดเอาได้ แต่วัดนี้มีความสวยงามไม่น้อย เป็นจุดแวะชมที่ไม่ควรพลาด







มีการจัดสวนสวยๆไว้ให้ชมกัน ทั้งสวนหิน น้ำพุ มีมุมถ่ายรูปสวยๆเยอะ


หลังจากนั้นเราก็มาไหว้พระกันต่อที่วัด Che Kung Temple หรือวัดกังหันที่คนไทยนิยมมาไหว้กัน โดยเราต้องนั่งรถไฟใต้ดินสายสีฟ้าอ่อน มาลงที่สถานี Tai Wai ออกประตู  Exit B แล้วเดินทะลุท่ารถเมล์ จะเจอถนน แล้วเดินไปทางซ้ายลัดเลาะไปตามทาง สังเกตุทางขวามือฝั่งตรงข้าม จะเห็นวัดสีแดงๆ ก็ข้ามถนนเข้าไปในวัดได้เลย




ไหว้พระวัดกังหัน วัดนี้จะมีเอกลักษณ์คือกังหันลมที่ประดับประดาอยู่เต็มวัด ตามประวัติได้มีโจรสลัดเดินทางจะมาปล้นสดมส์ชาวบ้าน ได้มีหญิงสาวนางหนึ่งได้พบเจอชายแก่ เครายาวสีขาวมาบอกว่ามีโจรสลัดจะเข้า ให้หญิงสาวนางนั้นกลับไปบอกชาวบ้าน ให้พับกระดาษรูปกังหันติดหน้าหมู่บ้านให้มากที่สุด หลังจากนั้นเกิดอัศจรรย์โจรสลัดได้ผ่านหมู่บ้านนั้นไปโดยไม่มีการปล้นหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าต้องเป็นต้องเป็นนายพลแชกง ผู้พิทักษ์องค์จักรพรรดิ ทำให้ชาวบ้านได้สร้างวัดแห่งนี้เพื่อระลึกถึงท่าน 





หลังจากไหว้พระมา 3 แห่ง หลังจากนั้นเราก็มาช็อปปิ้งที่มงก๊ก







ตลาดแห่งนี้มีสินค้าเกือบทุกประเภทให้เลือกซื้อ แม้กระทั่งสินค้าแบรนด์เนม แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นจะเป็นสินค้าจากจีนเป็นส่วนใหญ่ และราคาก็ไม่ถูกเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะค่าครองชีพฮ่องกงแพง ทำให้รู้สึกว่าสินค้าทางเมืองไทยถูกกว่า แต่การเดินชมบรรยากาศมันก็เพลิดเพลินดี



วันที่สองของฮ่องกงมีแผนที่จะไปชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของฮ่องกง แต่ขอเติมพลังกันก่อน ซึ่งมีอยู่เต็มไปหมดทุกที่ แล้วแต่จะเลือกเอตามใจชอบ



หลังจากอิ่มท้องก็เดินมาเจอล็อตโต้ของฮ่องกง ต้องลองซักหน่อย ราคาก็มีให้เลือกหลากหลาย แต่ต้องกรอกตัวเลขเอง วันนั้นเงินรางวัลประมาณร้อยล้านเหรีญเห็นจะได้ จัดไป







ในพิพิธภัณฑ์ติดแอร์เย็นฉ่ำ น่ามาเดินเล่นถือเป็นการหลบร้อนของการไหว้พระในวันแรก







เสร็จจากชมพิพิธภัณฑ์ เราก็ไปต่อที่จุดชมวิว The Peak โดยใช้บริการรถแท็กซี่ แต่เค้าก็มีรถเมล์ให้บริการเหมือนกัน ระหว่างทางก็จะเห็นตึกสูงตั้งตระหง่านมากมายซึ่งเป็นsignatureของฮ่องกง





The Peak เป็นจุดชมวิวเมืองฮ่องกง ซึ่งทุกคนต้องมา ค่าบริการก็ไม่แพงมากประมาณ 150 เหรียญ โดยต้องขึ้นรถรางไฟฟ้าไต่ระดับเขาขึ้นไป ทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษ ข้างบนสามารถชมวิวได้ 360 องศา ซึ่งส่วนใหญ่คนก็จะเลือกขึ้นไปถ่ายรูปกัน.




มุมสวยๆให้ถ่ายรูปมากมาย





มุมนี้เป็นมุมอมตะ หรือว่ามุมมหาชน ที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูป จะเห็นได้ตามนิตยสารท่องเที่ยวเมืองฮ่องกง


หลังจากลงจากThe Peak ก็มุ่งหน้ามาชมโชว์ยิงเลเซอร์จากฝั่งฮ่องกง ซึ่งจะมีโชว์ทุกวันเวลา 19.00 น แต่เราควรต้องมาจองที่ตั้งแต่นั่นเนิ่น เพราะนักท่องเที่ยวจะเยอะมาก





หลังจากชมโชว์เลเซอร์ ก็มาชมวิว ถ่ายรูปต่อ ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกัน





หลังจากชมวิวและแสงสีเมืองฮ่องกงจนจุใจ ก็เดินเท้ากลับที่พัก ระหว่างทางมีshopแบรนด์เนมมากมายให้ช็อปปิ้ง ซึ่งสวยไม่แพ้กัน





วิวข้างทางระหว่างกลับ


เช้าวันที่สามเราวางแผนไปไหว้พระใหญ่ที่นองปิงโดยใช้รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้มออกนอกเมือง ไปทางเดียวกับดีสนีย์แลนด์ แต่เลยไปอีกประมาณ 2 สถานี ไปลงที่นองปิง ออกจากสถานีก็เดินตรงไปทางท่ารถผ่าน factory outlet จะเห็นทางขึ้นกระเช้าไฟฟ้า ซึ่งผมไปช่วงที่กระเช้าปิดปรับปรุงพอดี เลยต้องนั่งรถเมล์สาย 21 ใช้เวลาประมาณ45นาที แต่ถ้ากระเช้าประมาณ 30 นาที ค่ากระเช้าประมาณคนละ 800 บาท แต่ถ้ารถเมล์ประมาณแค่ 150 บาท ซึ่งท่ารถก็จะอยู่ใกล้กระเช้าทางขึ้นพอดี






ใช้เวลาไม่นานมากก็มาถึงพระใหญ่ วัดโปลิน อากาศที่นี่ค่อนข้างโปร่งโล่งสบาย หนีจากชีวิตแออัดของเกาะฮ่องกง.



จุดนี้เป็นจุดศูนย์รวมพลัง จะต้องยืนตรงกลางแล้วหันหน้าไปทางพระประธาน แล้วอธิฐานแล้วจะโชคดี





ต่อจากนั้นก็ขึ้นบันไดไปไหว้พระด้านบน ซึ่งมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก เมื่อมองลงมาด้านล่าง







ด้านบนจะเห็นพระองค์ใหญ่งดงามมาก ไม่เสียแรงที่ดั้นด้นมาถึงที่นี่


องค์เซียนก็สวยไม่แพ้กัน



ถ่ายมุมไหนก็สวย เป็นงานประติมากรรมขนาดใหญ่ ทีมีความงดงามอันหนึ่งของโลกก็ว่าได้





ลงมาด้านล่างก็มีซุ้มประตู ผ่านไปด้านหลังยังมีที่ไหว้พระขอพรอีกที่หนึ่ง



ก่อนกลับควรหันกลับไปมองภาพประทับใจอีกซักครั้งกับความงดงาม



หลังจากกลับลงมาจากไหว้พระใหญ่ ผมแนะนำให้แวะเข้าไปในfactory outlet เข้าไปรับประทานอาหารนั่งพักหลบร้อนใน food court แถมในนั่นยังมีสินค้าราคาถูกให้ช็อปปิ้งอีกด้วยก่อนเดินทางกลับ.

สำหรับทริปฮ่องกงก็จบที่นองปิงเป็นที่สุดท้ายของผม ส่วนเรื่อที่พักนั้น ผมพักที่เรียบง่าย ไม่แพงมากที่ Chung king แถว จิม ซา จุ่ย ซึ่งจะสะดวกมาก เพราะสามารถเดินไปชมโชว์วิว และโชว์เลเซอร์ของฝั่งฮ่องกงได้ และใกล้แหล่งช็อปปิ้งแบรนด์เนม ใกล้กับถนน NATHAN ROAD ส่วนที่กินนั้น ผมเลือกเอาตามสะดวกเพราะผมคิดว่า อาหารที่นั่นสำหรับคนไทยแล้ว รสชาติก็คล้ายกัน เพราะผมมาเป็นครั้งที่สามแล้วและลองชิมมาหลายร้านที่ดังๆ ก็รู้สึกไม่แตกต่างกัน ผมแนะนำว่าเอาตามสะดวกจะดีกว่า เห็นร้านไหนน่ากินก็แวะเลย และไม่ทำให้เราเสียเวลากับแผนการเดินทางอีกด้วย หลังจากเที่ยวฮ่องกงผมก็มีแผนข้ามไปเที่ยวที่มาเก๊าต่อ ติดตามได้ในblogต่อไปครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น